หลับอย่างไร ให้สุขภาพดี ตอนที่ 1
เอมไทยมาบอกเล่า หลับอย่างไรให้มีสุขภาพดี ZZZzzz
ช่วงเวลาสำคัญของทุกๆวันของทุกๆคนที่มักถูกมองข้ามไป
คนส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับการนอน 1 ใน 3 ของชีวิต แต่ทว่า ก็มีความต้องการในการหลับที่แตกต่างกันไปในแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้าตื่นมาแล้วพบว่า ยังง่วงซึม เหนื่อยๆ เฉื่อยชา ไม่ว่าจะนอนเยอะนอนน้อยก็แสดงว่า คุณภาพการนอนยังไม่ดีพอ ร่างกายเลยยังไม่คืนสภาพให้สดชื่น
ทั้งนี้หลายคนสงสัยเราควรเข้านอนเวลาใด เวลาเข้านอน อย่างช้าที่สุดไม่ควรเกินเวลา 23:00น.ของทุกๆวันเป็นปกติ หากแต่บางคนที่ทำงานกลางคืน แต่นอนกลางวันก็ต้องให้ใช้วิธีคำนวนเวลานอนแทน และสถานที่หลับก็ควรมืดที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ร่างกายเรารับรู้ว่าเป็นเวลาที่ควรนอนแล้ว
ตอนที่ 2 คลิ้กเลยจร้า เราจะมาพูดถึงปัจจัยที่ทำให้การนอนหลับแต่ละช่วงเกิดอาการสะดุดกัน
ขอบคุณที่ตามอ่านกันจร้า
ขอบคุณภาพประกอบสวยๆจาก PIXABAY.com
เอมไทยเรียบเรียง
ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือ เต๋าแห่งสุขภาพ
แนะนำข้อมูล ได้ที่ Line ID @aimthai www.facebook.com/aimthaiorganic
ช่วงเวลาสำคัญของทุกๆวันของทุกๆคนที่มักถูกมองข้ามไป
คนส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับการนอน 1 ใน 3 ของชีวิต แต่ทว่า ก็มีความต้องการในการหลับที่แตกต่างกันไปในแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้าตื่นมาแล้วพบว่า ยังง่วงซึม เหนื่อยๆ เฉื่อยชา ไม่ว่าจะนอนเยอะนอนน้อยก็แสดงว่า คุณภาพการนอนยังไม่ดีพอ ร่างกายเลยยังไม่คืนสภาพให้สดชื่น
ทั้งนี้หลายคนสงสัยเราควรเข้านอนเวลาใด เวลาเข้านอน อย่างช้าที่สุดไม่ควรเกินเวลา 23:00น.ของทุกๆวันเป็นปกติ หากแต่บางคนที่ทำงานกลางคืน แต่นอนกลางวันก็ต้องให้ใช้วิธีคำนวนเวลานอนแทน และสถานที่หลับก็ควรมืดที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ร่างกายเรารับรู้ว่าเป็นเวลาที่ควรนอนแล้ว
- 80-90 นาทีแรกของการนอน NREM (non rapid eye movement sleep) การหลับจะดิ่งลึกลงสม่ำเสมอ มี 4 ขั้น 1 เริ่มหลับ 2 หลับแบบปลุกง่าย 3 หลับลึก 4 หลับขั้นที่คลื่นสมองจะช้าและปลุกตื่นยาก ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการเติบโต ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ เผาผลาญไขมัน โดยร่างกายจะดำเนินไปตามขั้น 1-4 และย้อนกับมา ขั้น 4-1
- 10นาทีถัดมา จะเข้าสู่ภาวะ REM ( rapid eye movement) ช่วงนี้เป็นช่วงยืดเส้นยืดสายของระบบประสาทต่างๆในร่างกาย มีอาการตา กลอก ไปมาซึ่งเป็นการบำรุงรักษาวงจรระบบประสาทส่วนกลาง คลื่นสมองจะทำงานเร็วขึ้น และเป็นช่วงที่เราอาจมีการฝัน คนที่ขาดการหลับแบบ REM จะเป็นคนที่สมาธิสั้น ความจำและเรียนรู้จะต่ำลง
โดยทั้งสองช่วงของการนอนจะกินเวลาประมาณ 90-100 นาที หมุนวนไปเป็นรอบๆ ซึ่งในแต่ละรอบนั้นจะมีการเพิ่มขึ้นของ REM จาก 10 นาที→→เพิ่มขึ้นเรื่อยๆในแต่ละรอบ โดยจะไปลดเวลาของช่วงหลับลึก(ช่วงที่4) ในส่วนของ NREM ลง แต่เวลารวมก็จะอยู่ทั้ง2ช่วงก็จะอยู่ในห้วงเวลา 90-100 นาที
ซึ่งช่วงที่เราตื่นควรเป็นช่วง ที่จบการนอนแบบ REM เพราะร่างกายจะเข้าสู่ช่วงเริ่มหลับ
คำนวนง่ายๆ หากเรานอนได้ 4 รอบ คือ 100x4 = 400 นาที คือประมาณ 6 ชม เวลาตื่นมาก็จะสดชื่นพอดี
รู้ดังนี้แล้ว ควรคำนวนการนอนให้ได้รอบการตื่นในช่วงที่จบการนอนแบบ REM นะ จะทำให้การนอนได้คุณภาพและทำให้ร่างกายสดชื่นที่สุด นี้แหละการนอนได้ครบเวลาที่ทำให้สุขภาพดี ใช้ได้ทั้งคนที่ทำงานกลางกลางคืนและหลับตอนกลางวันนะ
แต่ๆๆ มี แต่ ด้วย แฮะ การหลับ ที่ทำให้สุขภาพดีนั้น ต้องไม่มีภาวะที่ทำให้การนอนสะดุดไม่ว่าจะเป็นช่วง NREM หรือ REM ปัจจัยที่ทำให้การนอนสะดุดในแต่ละช่วงนี้แหละ เป็นการที่ทำให้เรานอนอย่างไร้คุณภาพ ทำให้มีอาการนอนไม่เต็มอิ่ม ทั้งๆที่จำนวนเวลาที่หลับนั้น ครบรอบก็ตาม
ตอนที่ 2 คลิ้กเลยจร้า เราจะมาพูดถึงปัจจัยที่ทำให้การนอนหลับแต่ละช่วงเกิดอาการสะดุดกัน
ขอบคุณที่ตามอ่านกันจร้า
ขอบคุณภาพประกอบสวยๆจาก PIXABAY.com
เอมไทยเรียบเรียง
ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือ เต๋าแห่งสุขภาพ
แนะนำข้อมูล ได้ที่ Line ID @aimthai www.facebook.com/aimthaiorganic
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น